1. ผู้จัดประมูลซ่อมทรัพย์สิน สามารถเลือกผู้รับซ่อมทรัพย์สินที่มีสัญญากับบริษัทฯ ภายใน ภาค 3 แตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป
2. ผู้รับซ่อมทรัพย์สิน ตรวจสอบรายละเอียดความเสียหาย ทำใบเสนอราคา และประมูลงานซ่อมผ่านโปรแกรม E-auction ผู้รับซ่อมทรัพย์สินต้องทำรายการในระบบทั้ง 2 ช่อง(จำนวนเงินประมูลกับรูปใบเสนอราคา) เบื้องต้นผู้รับซ่อม สามารถเลือกทำเฉพาะช่องรายการ "จำนวนเงินประมูล" ก่อนได้ แต่หากภายหลังพบว่ายังไม่ทำรายการในช่อง "รูปใบเสนอราคา" ผู้รับซ่อมทรัพย์สินจะไม่สามารถประมูลงานซ่อมในครั้งต่อไปได้
3. กรณีผู้รับซ่อมทรัพย์สิน ประมูลงานซ่อมผ่านโรแกรม E-auction สำเร็จแล้ว พบว่าลงราคาประมูลงานซ่อมผิดพลาด หรือต้องการยกเลิกประมูลงานซ่อมนั้นก่อน จึงจะลงราคาประมูลที่ถูกต้องใหม่ หรือยกเลิการประมูลงานซ่อมนั้นเลย ซึ่งจะทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
4. การประมูลงานซ่อมทรัพย์สินจะทราบผลการประมูล มี 2 กรณี
กรณีที่ 1 ผู้รับซ่อมทรัพย์สิน ประมูลงานซ่อมผ่านโปรแกรม E-auction ครบทุกราย ตามที่ผู้จัดประมูลงานซ่อมกำหนดไว้
กรณีที่ 2 ผู้รับซ่อมทรัพย์สิน ประมูลงานซ่อมผ่านโปรแกรม E-auction ไม่ครบทุกราย ตามที่ผู้จัดประมูลงานซ่อมกำหนดไว้ หรือมีผู้รับซ่อมทรัพย์สินรายใด ยกเลิกระหว่างการประมูล ต้องรอจนถึงเวลา 16:00 น. ของวันถัดไป
หากพบว่ามีราคาประมูลงานซ่อมทรัพย์สินเท่ากัน ให้ถือว่าผู้รับซ่อมทรัพย์สินรายแรกนั้นได้สิทธิเป็นผู้ชนะการประมูล
5. ผู้รับซ่อมทรัพย์สินที่ชนะการประมูล จะต้องเจรจาเพื่อยุติค่าซ่อมกับหัวหน้าส่วนสินไหมทดแทน โดยกำหนดมิให้เกินกว่าราคาที่ชนะการประมูล ก่อนเข้าดำเนินการจัดซ่อม
6. ผู้รับซ่อมทรัพย์สินที่ชนะการประมูลแล้ว ไม่สามารถจัดซ่อมทรัพย์สินตามราคาที่ชนะการประมูลได้ ผู้จัดประมูลซ่อมทรัพย์สิน จะให้สิทธิ์ผู้รับซ่อมทรัพย์สิน ลำดับถัดไปเข้าจัดซ่อม และให้พิจารณาโทษตัดสิทธิผู้ชนะการประมูล เป็นระยะเวลา 3 เดือน และหากการไม่เข้าซ่อมทรัพย์สินดังกล่าวก่อนให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ ผู้ชนะการประมูลซ่อมทรัพย์สินนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าเสียหายดังกล่าว
7. ผู้รับซ่อมทรัพย์สินที่ชนะการประมูล และเจรจายุติค่าซ่อมเรียบร้อยแล้ว ไม่เข้าดำเนินการจัดซ่อม ตามระยะเวลาหรือจัดซ่อมไม่แล้วเสร็จตามที่กำหนด ผู้จัดประมูลซ่อมทรัพย์สิน พิจารณาโทษกับผู้รับซ่อมทรัพย์สินตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ